ความเป็นมาจากข้าวต้มเครื่องมาเป็นข้าวแห้ง (ข้าวต้มแห้ง)

ความเป็นมาจากข้าวต้มเครื่องมาเป็นข้าวแห้ง (ข้าวต้มแห้ง) #กินอะไรดี

ในสมัยที่คนจีนมาตั้งรกรากในประเทศไทยตั้งแต่แรกเริ่มได้มีนำเอาอาหารตั้งต้นอย่างข้าวต้ม ที่นำเอาข้าวขาวที่ต้มสุกมาใส่น้ำเปล่าเพื่อกินให้เกิดความอิ่มท้อง หรือบางคนจีนก็จะนำข้าวมาผัดกับกระเทียมเจียวก่อนแล้วถึงใส่น้ำ หลังจากนั้นได้มีการดัดแปลงนำน้ำซุปมาผสมกับข้าวที่ผัดกับกระเทียมแล้วเติมหน้าด้วยเนื้อสัตว์ด้านบนจนกลายมาเป็นข้าวต้มเครื่องที่นำเนื้อสัตว์เข้ามาใส่ต้มรวมกับข้าวต้มเลย และต่อจากนั้นก็ได้มีข้าวต้มที่มีการนำ กุ้ง ปลาทู และปลาหมึกมาใส่ในข้าวต้มและภายหลังได้มีการตั้งชื่อว่า ข้าวต้มสามกษัตริย์ ต่อมาจนถึงปัจจุบันก็ได้มีการนำเนื้อสัตว์ทุกอย่างเข้ามาต้มใส่ลงในข้าวต้ม เช่น ไก่ หมู ปลาหมึก กุ้ง ปลา รวมถึงหอย แต่การทำข้าวต้มที่ใส่อาหารทะเลจะไม่เหมือนข้าวต้มที่ใส่ หมู ไก่ คือ ต้องลวกอาหารทะเลต่างหาก เพราะด้วยอาหารทะเลมีกลิ่นคาวเฉพาะการลวกให้สุกก่อนจึงเป็นการนำเอากลิ่นคาว และกลิ่นอาหารทะเลบางส่วนออกไป และที่สำคัญคือการถนอมความสุกให้พอประมาณเพราะหากอาหารทะเลที่ลวกต้มกับข้าวจนสุกมากเกินไปนั้นอาจทำให้เสียของ และเนื้ออาหารทะเลแข็งกินไม่อร่อย จนมาถึงปัจจุบันยุคที่อาหารทุกอย่างล้วนต่างมีการดัดแปลง หรือเรียกว่า twist สามารถเอาอาหารจากชาติหนึ่งมาผสมผสานกับอีกชาติหนึ่งจนกลายเป็นอาหารจานใหม่ได้อีก และชามข้าวต้มก็เป็นอาหารอีกอย่างที่สามารถดัดแปลงจนปัจจุบันเรียกว่า ข้าวแห้ง หรือในนามที่คนรู้จักคือ ข้าวต้มแห้งนั่นเอง ข้าวต้มแห้งก็เหมือนบะหมี่ ก๋วยเตี๋ยว ที่มีทั้งคนที่ชอบกินทั้งน้ำ และแห้ง การทำข้าวแห้ง หรือข้าวต้มแห้งถือว่าเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มคนอีกส่วนหนึ่งที่ชอบกินแห้ง เพราะอาจจะติดใจความหอมของกระเทียมเจียว และเครื่องที่วางเป็นท้อปปิ้งด้านบนข้าวต้ม การทำข้าวต้มแห้งจึงไม่มีความต่างจากข้าวต้มเครื่อง หรือบะหมี่ ก๋วยเตี๋ยวแห้ง การทำข้าวต้มเครื่องต้องมีการทำน้ำซุปไว้อยู่แล้วเพื่อใส่ในข้าว หรือบางร้านจะนำน้ำซุปลงไปต้มกับข้าวเพื่อให้ยางของข้าวหอมมะลิออกมาช่วยให้ข้าวต้มข้นเหนียวน่ากิน แต่สำหรับข้าวต้มแห้ง การนำข้าวหอมมะลิที่ผ่านการต้มให้ฉ่ำน้ำแล้วตักมาเฉพาะข้าวแล้ววางท้อปปิ้งเนื้อสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อของอาหารทะเล ปลาหมึก กุ้ง เนื้อปลา หอย หรือเนื้อสัตว์บกที่มีทั้ง […]