ความจัดจ้านของ ต้มยำกุ้ง ทำให้อยากรู้ว่าเป็นมายังไง

ความจัดจ้านของ ต้มยำกุ้ง ทำให้อยากรู้ว่าเป็นมายังไง

อาหารที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยน่าจะมีไม่กี่อย่างที่เป็นที่อยากลิ้มลองรสชาติของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทย ไม่รวมถึงความนิยมกินของคนไทยกับความจัดจ้านในรสชาติไม่แพ้ ส้มตำ ผัดไท หรือกะเพรา ทำให้ ต้มยำกุ้ง ที่มีทั้งเครื่องต้มยำสมุนไพร ผสมผสานด้วยความนัวของกะทิ หรือนมที่เข้มข้นในน้ำต้มยำกับความหอมหวานของเนื้อกุ้ง และไข่กุ้งรวมกันในชามเดียวกัน คือความลงตัวที่ครองความนิยมมาถึงปัจจุบันนี้ ได้มีการค้นพบจาน ต้มยำกุ้ง นี้ได้มีการเขียนขึ้นมาในหนังสือของเสวย ที่เขียนขึ้นมาโดย  ม.ร.ว.กิตินัดดา กิติยากร อดีตเลขานุการคณะองคมนตรี ซึ่งเป็นผู้มีความรอบรู้ในการทำอาหาร และได้มีโอกาสติดตาม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในขณะที่แปรพระราชฐานไปพระราชวังไกลกังวล ได้มีการทำอาหาร ต้มยำกุ้งเพื่อถวายให้กับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ  พระบรมราชินีนาถ ต้มยำกุ้ง ที่ ม.ร.ว.กิตินัดดา กิติยากร ได้มีการทำทูลถวายเป็นเมนูที่คิดขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วนด้วยมีรับสั่งอยากให้มีอาหารเพิ่มอีกอย่าง ตอนนั้นได้มีการนำน้ำที่จะต้มเป็นน้ำซุป โดยใส่เปลือก และหัวกุ้งมาต้มเป็นน้ำซุปแยก ส่วนตัวกุ้งนั้นมีการแกะเปลือก ดึงเส้นดำออกจากสันหลัง และผ่ากลางหลังนำไปลวกแล้วจัดเรียงในชาม ตามด้วยตักน้ำซุปราดลงในชามปรุงเครื่องด้วย พริกขี้หนูตำ น้ำปลา และมะนาว โดยที่ต้มยำกุ้งชามแรกไม่ได้มีการประโคมเครื่องต้มยำ หรือเครื่องสมุนไพรอะไรมากมายเหมือนในปัจจุบันนี้ ต้มยำกุ้งในปัจจุบันมีการประยุกต์มากขึ้น โดยแบ่งออกเป็นต้มยำกุ้งน้ำข้น ซึ่งจะเน้นใส่น้ำพริกเผา นมข้นจืด หรือนมสด ในบางที่อาจมีการทดแทนใส่กะทิแทนเพื่อเพิ่มความหอมไปอีกแบบ ทำให้ต้มยำกุ้งในปัจจุบันนี้มีรสชาติ และความเข้มข้นที่หลากหลายมาผสมผสานรสชาติในชามต้มยำกุ้งได้อย่างลงตัวมากขึ้น […]