ลิ้มลอง “หมูกระจก” แล้วคุณจะชอบหมูติดมันทอด ๆ มากขึ้น!
เมื่อพูดถึงเรื่องราวของ “หมูติดมัน”กันแล้ว เชื่อว่าจะมีทั้งคนที่ชอบรับประทานมากและคนที่ไม่ชอบรับประทานถึงขนาดเกลียดมันหมูเข้าไส้เลยก็ว่าได้ สำหรับคนที่ชอบรับประทานหมูมันก็มักจะชอบในความนุ่มของหมูที่เวลาปรุงรสแล้ว รสชาติของเครื่องปรุงกับซอสต่าง ๆ ก็จะติดแทรกอยู่ตามมันหมูมากกว่าเนื้อที่ทั้งมีความหนาและแข็งจนรู้สึกไม่ชอบเนื้อ แต่ชอบมันมากกว่า รับประทานแล้วนุ่มละลายในปากอร่อยดี แต่ในมุมตรงกันข้ามของคนที่ไม่ชอบรับประทานหมูติดมันก็จะรู้สึกว่ารับประทานแล้วเหมือนไม่ได้รับประทานหมูเลย แต่เหมือนได้รับประทานอะไรก็ไม่รู้ที่นุ่มและแหยะในปากจนขนลุกไปหมด อีกทั้งบางคนก็บอกว่าหมูติดมันแคลอรี่เยอะ แต่ใด ๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายหมูติดมันหรือไม่ แน่นอนว่าทุกคนย่อมจะเคยรู้สึกว่ารับประทานหมูติดมันแล้วมีความเลี่ยนทั้งนั้น เพราะคนที่ชอบเมื่อรับประทานเยอะก็จะเริ่มชินปากกลายเป็นความเลี่ยนจนรับประทานมัน ๆ ไม่ไหวเช่นเดียวกับคนที่ไม่ชอบรับประทานมันด้วย วันนี้เราจึงอยากมาแนะนำเมนูอาหาร “หมูกระจก” ที่อาจเปลี่ยนแปลงมุมมองของหมูติดมันให้คุณรับประทานแล้วกลายเป็นอาหารโปรดได้ทั้งนั้น ทำความรู้จักกับเมนูอาหาร “หมูกระจก” “หมูกระจก” เป็นเมนูอาหารหมูทอดที่มีต้นกำเนิดสูตรมาจากจังหวัดเชียงรายทำให้ชื่อเดิมที่ชาวพื้นเมืองทางเหนือรู้จักมักจะเรียกกันว่า “หมูทอดเจียงฮาย” เพราะมีเอกลักษณ์การทอดที่ไม่เหมือนหมูทอดอื่นตรงที่คนทำจะนำหมูสามชั้นมาหั่นเป็นเส้นบาง ๆ ขนาดก่อนจะตัดเป็นชิ้นสั้น ๆ ทำให้ชิ้นของหมูคล้ายกับหมูสไลด์ที่ส่วนบนเป็นหนังกับมันและส่วนล่างเป็นเนื้อก่อนจะนำมาปรุงรสด้วยซอสซีอิ๊ว น้ำมันหอย น้ำส้มสายชู น้ำตาล และคลุกเคล้าด้วยแป้งผสมน้ำรวมกันในกะละมังให้ตัวน้ำแป้งข้น ๆ ติดทั่วชิ้นหมูทุกชิ้นแล้วจึงนำไปทอดจนได้หมูที่มีความกรอบเหมือนแคบหมู แต่มีความนุ่มจากมันหมูนุ่มเล็กน้อยภายในระหว่างเคี้ยว โดยเมื่อกัดเข้าปากแต่ละคำจะมีเสียงกร็อบคล้ายเสียงกระจกแตกซึ่งนิยมรับประทานกับข้างเหนียวร้อนอร่อย ๆ หรือจะรับประทานเล่น ๆ ก็เพลินปากได้ ไม่เลี่ยนเหมือนหมูทอดอื่น เพราะความกรอบของตัวหมูกระจกทำให้ตัดเลี่ยนและน้ำมันที่อยู่ในตัวมันหมูออกไปได้ รสชาติความอร่อยของเมนูอาหาร “หมูกระจก” “หมูกระจก” จะมีรสชาติความเค็มนำของหมูที่กรอบภายนอกจากการทอดและมีความนุ่มอมหวานเล็กน้อยที่แฝงอยู่ภายในตัวมันทำให้มีความอร่อยน่าประทับใจคนที่เป็นสายชอบหมูติดมันหรือไม่ชอบหมูติดมันมาก ด้วยมีความบางทำให้ไม่ต้องสัมผัสกับกลิ่นของตัวหมูที่บางร้านจะยังคงมีความคาวอยู่แต่สำหรับการรับประทานหมูกระจก คุณจะรู้สึกเหมือนรับประทานแคบหมูที่มีความนุ่มภายในมากกว่า ไม่ว่าจะพกไปรับประทานเล่นในรถระหว่างเดินทางหรือรับประทานเป็นอาหารมื้อหลักคู่กับอาหารอื่นก็เสริมความอร่อยให้ทุกเมนูอาหารได้ดีทั้งนั้น เครื่องเคียงเมนูอาหาร “หมูกระจก” […]
แกงคั่วไทยโบราณ เข้มข้นหอมด้วยเครื่องแกง
หากเราพูดถึงอาหารไทยที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ หรือ signature สำหรับประเทศไทยนั้น แกงกะทิถือว่าเป็นอาหารจานหลักที่นำหน้ามาด้วยความที่รสชาติเข้มข้นด้วยเครื่องแกง และสมุนไพรไทยๆ อีกทั้งรสชาติที่มีทั้งหวาน เค็ม เผ็ด ครบถ้วน ความหอมในตัวกะทิที่นำมาทำเป็นน้ำแกงกะทิด้วยแล้ว สามารถที่จะสู้ความอร่อยได้กับอาหารต่างชาติอย่างไม่อายใคร อีกแกงกะทิหนึ่งสำหรับคนไทยที่มีความอร่อยไม่แพ้แกงเขียวหวานไก่เลย คือ แกงคั่ว ที่มีเอกลักษณ์รสชาติที่เข้มข้นทั้งความเผ็ด และรสกลมกล่อมครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นความหอมเครื่องแกง และรสชาติ หาอาหารจานไหนเทียบเท่ายาก แต่ในปัจจุบันการจะหาแกงคั่วที่อร่อยแบบสมบูรณ์แบบได้เป็นเรื่องยากมาก เพราะต้องมีความเข้มข้นทั้งในเรื่องของกะทิ และเครื่องแกงที่ตำ เลือกสรรสมุนไพรไทยเอง หากเป็นการนำเครื่องแกงสำเร็จรูปที่ทำขายอาจต้องมีการเพิ่มเติมสมุนไพรบางตัวเพิ่มเติมเพื่อให้หอมกลิ่นสมุนไพรมากขึ้น แกงคั่ว นั้นแต่เดิมเป็นสำรับอาหารสำหรับคนในเอเชียอาคเนย์ที่มีการนำเครื่องแกงมาตำกันเองแล้วใส่กะทิ (มีวัตถุดิบที่เป็นมะพร้าวมาก) เพิ่มเติมด้วยเนื้อสัตว์เป็นหลัก เมื่อแกงคั่วได้มีการนำมาปรุงในไทยเครื่องแกงจึงเป็นเครื่องแกงเผ็ดเป็นหลัก แต่ปรุงเน้นความหวาน และเปรี้ยวเพิ่มเติม เป็นความต่างระหว่างแกงคั่ว และแกงเผ็ด แกงคั่ว มีการดัดแปลงจนมาเป็น แกงเทโพ ต่างกันแค่หากทำแกงเทโพ นอกจากเอาเครื่องแกงคั่วมาทำแต่เพิ่มเพียงแค่น้ำมะกรูดในความหอม และเปรี้ยว ตัวผักบุ้ง และหมูสามชั้น ความต่างระหว่างแกงคั่ว กับแกงเผ็ด หรือแกงแดง ทั้งๆ ที่แกงคั่วนั้นมีพื้นฐานในการนำสมุนไพรไทยที่มาตำเครื่องแกงเป็นแกงเผ็ด หรือแกงแดง เพียงแต่หากทำแกงคั่วนั้นจะไม่ใส่ ยี่หร่า และเม็ดผักชี เพราะในการทำจะมีน้ำมันลอยขึ้นหน้าซึ่งจะเป็นสัญลักษณ์ของแกงเผ็ด แต่แกงคั่วผิวหน้าแกงจะเนียนด้วยเครื่องแกงที่เข้มข้น ไม่มีน้ำมันลอยหน้า เอกลักษณ์ของแกงคั่ว […]