ในเวลานี้น้ำมะพร้าวที่เป็นผลผลิตหลักจากจังหวัดนครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาครได้กลายมาเป็นสิ่งที่ช่วยปรุงแต่งเครื่องดื่มเก่า ๆ ให้ประยุกต์ไปในทางที่ทันสมัยและแปลกใหม่ได้มากขึ้น โดยเฉพาะกับ “กาแฟมะพร้าว” ซึ่งได้กลายมาเป็นเมนูยอดนิยมที่ทำรายได้ให้แก่คาเฟ่มากมายของเมืองไทยได้เป็นอย่างดี และมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้น ทุกอย่างเกิดขึ้นจากสิ่งเดียว นั่นคือ “การยอมเสี่ยงที่จะเปลี่ยนแปลงมิติของเครื่องดื่ม”
หากเราไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงเครื่องดื่มก็ไม่ต่างจากคนที่ย่ำอยู่กับที่ภายใต้การแข่งขันของธุรกิจเครื่องดื่มคาเฟ่มากมาย และกาแฟมะพร้าวก็ได้กลายมาเป็นความหวังใหม่ของธุรกิจเครื่องดื่มตอนนี้กันมาก
เพราะแม้อนาคตกาแฟมะพร้าวจะมีคนทำเยอะ แต่สูตรการทำนั้นย่อมมีความเข้มข้นและอร่อยที่แตกต่างกันไปตามเอกลักษณ์จึงไม่ใช่ปัญหาใด ๆ หากคุณสนใจในการทำกาแฟมะพร้าวแต่ยังไม่ค่อยมีความเข้าใจรายละเอียดของตัวเครื่องดื่มเท่าไหร่ก็ลองอ่านบทความนี้กันก่อน

ความเป็นมาของสูตร “กาแฟมะพร้าว”
“กาแฟมะพร้าว” เป็นเครื่องดื่มที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเวียดนาม เพราะเวียดนามนั้นมีมะพร้าวเป็นหนึ่งในผลผลิตที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรในประเทศที่สูงและพื้นที่ส่วนใหญ่ก็อยู่ติดทะเลทำให้มีสภาพภูมิประเทศเหมาะกับการทำการเกษตรสวนมะพร้าวมาก จนสามารถได้มะพร้าวน้ำดีออกมาวางขายได้มากมาย
จนมะพร้าวของพวกเขาก็ได้ถูกนำมาใช้ในการคิดสูตรให้กับกาแฟที่มีความเข้มข้นซึ่งอาจจะมากเกินไปสำหรับบางคน การเพิ่มความหอมและหวานแบบธรรมชาติที่มากขึ้นให้แก่กาแฟดำและกาแฟนมสดที่เมื่อลองแล้วพบว่าอร่อยมากกว่าที่คิดจึงเกิดเป็นความนิยมของเวียดนาม ซึ่งคนไทยที่ได้มีโอกาสไปชิมก็รู้สึกประทับใจจึงนำสูตรกลับมาทำที่เมืองไทยในที่สุด

การทำ “กาแฟมะพร้าว”
ในการทำกาแฟมะพร้าวต้องคำนึงด้านการใช้วัตถุดิบในปริมาณที่เหมาะสมเป็นสำคัญเพื่อความสมดุลกันของรสชาติที่แตกต่างระหว่างน้ำมะพร้าวกับกาแฟ โดยหลักจะมีส่วนประกอบ ดังนี้
1. กาแฟตามชนิดที่แล้วแต่เราจะเลือก 1 ช็อต (หากมากกว่านี้อาจทำให้เข้มข้นเกินไปและเสียสุขภาพได้)
2. น้ำร้อน 75 มิลลิลิตร
3. น้ำตาลทราย 3 ช้อนชา
4. น้ำมะพร้าวน้ำหอม 40 มิลลิลิตร
5. น้ำแข็ง 16 ออนซ์ 1 แก้ว
6.ถ้วยตวง

วิธีทำ
1.เมื่อเตรียมวัตถุดิบต่าง ๆ ครบแล้วก็ให้เมล็ดกาแฟใส่ในเครื่องชงก่อนจะสลัดออกมาได้น้ำกาแฟ
2.ทำการปรุงรสกาแฟโดยใส่น้ำตาลทราย หรือหากอยากได้กาแฟนมสดก็ให้เสริมนมสดเข้ามาในลิสต์ของวัตถุดิบด้วย ก่อนจะคนให้เข้ากัน
3. เติมน้ำมะพร้าวน้ำหอมลงในน้ำกาแฟร้อน ๆ
4. เติมน้ำแข็งและเทกาแฟมะพร้าวลงไปก่อนจะใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนเป็นท็อปปิ้งโปะหน้า
5.เสิร์ฟกาแฟมะพร้าวให้ลูกค้าได้ทันที
รสชาติของ “กาแฟมะพร้าว”
รสชาติของกาแฟมะพร้าวจะมีความหอมของเข้มข้นของตัวกาแฟที่ออกรสหวานและขมปลายลิ้นเล็กน้อย แต่ก็มีความหอมและได้ความหวานเสริมพอดีแบบกลมกล่อมจากรสชาติของน้ำมะพร้าวด้วย ยิ่งดื่มกาแฟมะพร้าวพร้อมกับกัดมะพร้าวอ่อนเข้าไปกรุบ ๆ เต็มคำนี่บอกเลยว่าลูกค้าจะสดชื่นคลายร้อนได้มากแน่นอน ซึ่งราคาต่อแก้วก็ไม่ควรเกิน 40 บาท ยกเว้นจะเป็นแบบแก้วถัง สามารถนำมาประยุกต์เป็นเมนูปั่นด้วยก็อร่อยเหมือนกัน ลองเลือกกาแฟมะพร้าวเป็นตัวเลือกหารายได้ของคุณดูนะ รับรองว่ารุ่งแน่นอน
#กินอะไรดี #รีวิวร้านอาหาร #กาแฟมะพร้าว