สาคูไส้หมู สอดไส้ความอร่อยที่มีความเป็นมาอร่อยกว่า

สาคูไส้หมู สอดไส้ความอร่อยที่มีความเป็นมาอร่อยกว่า

มีขนมไทยที่เป็นของกินเล่น อาหารว่างที่มากันเป็นแพ็คคู่ที่เรียกชื่อหนึ่งต้องเรียกอีกชื่อหนึ่งอย่าง สาคูปากหม้อ แต่มาวันนี้เราจะขอแยกของกินเล่น หรืออาหารว่างอย่าง สาคูไส้หมู มาแยกดูความเป็นมาที่มีประวัติความเป็นมาที่ไม่ธรรมดาเหมือนหน้าตาเลย เราจะได้รู้ว่าทำไมถึงต้องปั้นเป็นทรงกลมและทำไมจึงต้องมีการใส่ไส้ไว้ภายใน

  • สาคูไส้หมูนั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากช่วงรัชสมัยรัชกาลที่ 1 ที่มีการยกทัพไปเมืองเวียงจันทร์ที่ประเทศลาว และทรงโปรดเสวยไข่ตัวเงินตัวทองมากเป็นพิเศษ จนมาวันหนึ่งหาไข่ตัวเงิน ตัวทองนี้ไม่มีจนนางสนมของพระองค์ที่เป็นคนลาวได้มีการคิดค้นทำขนมขึ้นมาให้มีรูปทรงเหมือนไข่
  • การคิดค้นทำขนมให้เหมือนไข่ตัวเงินตัวทองจึงได้มีการคิดโดยนำแป้งสาคูที่มีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆขุ่นๆผสมรวมกับแป้งข้าวเหนียวเพื่อให้เกิดความหนึบเวลากินมาปั้นเป็นก้อนๆขนาดเท่ากับาไข่ตัวเงินตัวทอง ลักษณะจะเหมือนกับไข่ตัวเงินตัวทองมากเมื่อสุกแล้วจะมีสีขุ่นเล็กน้อย มีการใส่ไส้เป็นถั่วเขียวกวนเพื่อสีเวลาตอนสุกจะเห็นด้านในสีเหลืองลางๆ และเมื่อนำหัวกะทิมาราดด้านบนจะทำให้สาคูที่มีไส้ถั่วเขียวด้านในกลิ้งไปมาได้เพิ่มความเหมือนมากขึ้น
  • จากเริ่มแรกสาคูได้มีการนึ่งให้สุกแบบกรรมวิธีแบบธรรมดา เพื่อเป็นการยืดอายุขนมให้สามารถกินได้อีกเป็นเวลานานจึงนำมาทอดแล้วคลุกด้วยน้ำตาล ต่อมาจนถึงปัจจุบันจึงเรียกว่า ขนมไข่หงส์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้กิน
  • ส่วนผู้ที่ไม่ชอบการทอดเพราะมีน้ำมัน หรือไม่ชอบขนมที่มีกลิ่นน้ำมันจึงนำขนมดังกล่าวมาดังแปลงทั้งกรรมวิธี และวัตถุดิบหลักอย่างแป้งสาคูเปลี่ยนเป็นแป้งมันแทนที่สามารถหาซื้อได้ง่าย และราคาถูกกว่า ดัดแปลงจากขนมหวานที่มีไส้เป็นถั่วเขียวกวนหวาน เป็นไส้อาหารคาวแทนโดยทำจากหมูนำมาเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าวพร้อมรากผักชีพริกไทยเพื่อให้มีความนัว เหนียว หนึบเมื่อกินพร้อมกันกับแป้งมันที่ห่อด้านนอก 
  • จนมาถึงปัจจุบันนี้ขนมสาคูไส้หมูนั้นสามารถนำมาจัดสำรับเป็นเครื่องคาวขนมหรืออาหารว่างมื้อบ่าย หรือสำหรับเจ้าขุนมูลนายที่เป็นของว่างต้อนรับแขกบ้านเมือง แขกที่มาเยี่ยมเยียนที่บ้านได้ในสมัยอดีต
  • มาถึงปัจจุบันนี้มีการนำแป้งสาคูที่ผลิตสำเร็จรูปเหมือนสาคูในสมัยก่อน และมีการดัดแปลงไส้แบบสำเร็จรูปเป็นไส้ถั่วเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าวแบบหวาน ที่ใช้ไส้เดียวกันกับปากหม้อจึงเป็นที่มาว่าทำไมสาคูถึงต้องขายคู่กับปากหม้อ และต้องเรียกชื่อติดกันเป็น สาคูปากหม้อ

ขอบคุณเครดิตภาพจาก: freepik.com

#กินอะไรดี #รีวิวร้านอาหาร #กินอะไรดี #สาคูไส้หมู