ล่าสุดเราได้มีโอกาสดูละครพีเรียดของช่อง 3 เรื่อง “เล่ห์บรรพกาล”มา ซึ่งละครเรื่องนี้ได้บอกเล่าถึงเรื่องราวความรักข้ามภพข้ามชาติของคู่พระนางที่โชคชะตาได้นำพาให้พวกเขากลับมาเจอกันถึง 3 ชาติพร้อมกับอุปสรรคการต่อสู้กับศัตรูที่คิดจะแย่งชิงอำนาจมาเป็นของตัวเองจากเทวรูปโบราณ
โดยเราก็ดูละครเรื่องนี้ไปเพลิน ๆ จนมาถึงฉากหนึ่งในละครที่มีการย้อนเวลากลับไปเล่าเรื่องราวในชาติที่สองที่คู่พระนางมีชีวิตอยู่ในช่วงรัชกาลที่ 5 และนางเอกก็ได้ทำขนมไทยโบราณที่ชื่อว่า “มัศกอด”มาต้อนรับพระเอก จนกลายเป็นกระแสฟีเวอร์ระดับหนึ่งในด้านของขนมที่เราไม่เคยได้ยินกันมาก่อนแม้แต่คนรุ่นเก่าอย่างปู่ย่าตายายก็ยังมีน้อยมากที่จะรู้จักขนมชื่อนี้
แต่ก็ต้องขอบคุณละครเล่ห์บรรพกาลที่ทำให้ขนมโบราณในตำนานที่ถูกลืมอย่างมัศกอดได้เป็นที่รู้จักจนมีผู้คนกลับมาทำกันอีกครั้ง เพราะแม้จะเป็นขนมไทยโบราณแต่ก็มีความทันสมัยในตัวเหมือนกัน สำหรับใครที่ยังไม่เคยดูละครเรื่องนี้ เราจะมาบอกเล่าให้ทุกคนรู้จักกับ “มัศกอด” กันแบบไม่รอช้าเลยดีกว่าเผื่อจะมีใครสนใจอยากทำหรือหาซื้อมาลองบ้าง ของหวานดี ๆ คู่ไทยแบบนี้เราควรจะอนุรักษ์ไว้

ทำความรู้จักกับขนมไทย “มัศกอด”
“มัศกอด” หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ฮะหรั่ว” เป็นขนมไทยสไตล์ยุโรปที่มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่สมัยอยุธยา หน้าตาคล้ายกับคัพเค้กของฝรั่งที่มีท็อปปิ้งเมอแรงค์ทำจากไข่ขาวตีกับน้ำตาลทรายจนขึ้นฟูอยู่ด้านบนตัวเค้กที่เป็นขนมเค้กไข่ในแม่พิมพ์กระดาษพับเป็นลักษณะถ้วยขนาดเล็ก บางคนอาจทำเป็นขนมที่มีขนาดถ้วยใหญ่ก็ได้แล้วแต่ความชื่นชอบ
ความโดดเด่นของมัศกอดที่ทำให้ไม่มีขนมไทยชนิดใดเหมือน คือ ครีมด้านบนกับวัตถุดิบมะพร้าวขูดมาเป็นท็อปปิ้งที่หาง่ายในท้องถิ่นของไทยซึ่งถูกนำมาใส่สีผสมอาหารทำให้มีความสวยงามกว่าขนมไทยชนิดอื่น
หายากนักสำหรับขนมไทยแนวนี้ จึงสันนิษฐานว่ามัศกอดมีการดัดแปลงมาจากขนมของฝรั่งเศสในช่วงสมัยพระนารายณ์มหาราช เพราะช่วงนั้นก็เริ่มมีขนมไทยแปลกใหม่มากมายเกิดขึ้นมาด้วยฝีมือของท้าวทองกีบม้าหลากหลาย และมัศกอดก็อาจจะเป็นหนึ่งในนั้นด้วย แต่ด้วยความที่ดูแปลกทำให้อาจไม่ถูกปากถูกใจสไตล์คนไทยพื้นบ้านเท่าไหร่จึงทำให้ขนมนี้ถูกลืมไป
ลองมายุคสมัยใหม่นี้สิ! มัศกอดมีลักษณะไม่ต่างกับคัพเค้กแบบนี้วัยรุ่นย่อมจะชอบกันอยู่แล้วจึงไม่แปลกที่จะกลับมาดังและมีคนเริ่มนิยมหารับประทานกันมากขึ้น เรียกว่าเป็นขนมโบราณที่เหมือนมาจากโลกอนาคตจริง ๆ

ที่มาของขนมไทย “มัศกอด”
ขนมไทย “มัศกอด เคยกลับมาโด่งดังอีกครั้งในยุครัตนโกสินทร์สมัยที่รัชกาลที่ 2 ทรงครองราชย์ปกครองแผ่นดินสยาม สมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้ทรงพระราชนิพนธ์ “กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน” ที่ได้รวบรวมทั้งอาหารคาวและอาหารหวานที่ได้รับการชื่นชมในความอร่อยคู่แผ่นดินไว้หลายอย่าง หนึ่งในนั้นมีขนมมัศกอดด้วย
๏ มัศกอดกอดอย่างไร น่าสงสัยใคร่ขอถาม
กอดเคล้นจะเห็นความ ขนมนามนี้ยังแคลง

วิธีทำ ขนมไทย “มัศกอด”
ขนมไทย “มัศกอด” มีวิธีการทำที่ไม่ยากเลย สายเบเกอรี่หรือสายชอบทำขนมไทยก็สามารถเรียนรู้ได้ง่าย ๆ โดยเราจะมาแนะนำส่วนผสมและวิธีการทำ ดังนี้
- มะพร้าวขูดขาว 200 กรัม คั้นแล้วเคี่ยวให้เป็นขี้โล้ ¼ ถ้วย
- น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วย
- ไข่ไก่ 3 ถ้วย
- แป้งเค้ก 2 ถ้วย
- ไข่ขาวสำหรับแต่งหน้า 2 ฟอง
- น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทรายป่นละเอียด 1 ถ้วย
- สีผสมอาหารสีชมพู ฟ้า เขียว เหลือง
วิธีทำ
1. ตีไข่ให้ขึ้นฟอง แล้วทยอยใส่น้ำตาลลงไปขณะตีจนขึ้นฟู ใส่แป้งลงในไข่ที่ตีขึ้นแล้ว โดยใช้ไม้ตีไข่ คนตะล่อมไปทางเดียวกันให้เข้ากันอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องมาก
2. ทาพิมพ์ถ้วยด้วยน้ำมันขี้โล้ให้ทั่ว อบพิมพ์ให้ร้อน แล้วตักแป้งที่ผสมแล้วใส่ลงไป 3 ส่วน 4 ของพิมพ์ ก่อนจะนำไปเข้าเตาอบไฟบนและไฟล่าง ในระดับความร้อนที่อ่อน 250-300 องศาฟาเรนไฮด์ ประมาณ 15-20 นาที ให้เนื้อขนมพอเป็นสีนวลจึงนำออกจากเตาแล้วแกะออกจากพิมพ์
3. ในการทำท็อปปิ้งหน้ามัศกอด ให้คุณตีไข่ขาวให้ฟู ใส่น้ำตาลทรายป่นลงไป ตีจนกว่าจะขึ้นฟูแข็งค่อยทาลงไปบนหน้าเค้กให้ได้ความฟูสวย และผสมใส่สีผสมอาหารต่าง ๆ ตามต้องการลงไปในมะพร้าวขูด อบเฉพาะไฟบน 3-5 นาทีหรือจนกว่าหน้าขนมจะเป็นสีนวล เป็นอันเสร็จ รับประทานได้อย่างเอร็ดอร่อย
ลิงก์ที่เกี่ยวข้องกับ “มัศกอด”
ขนมมัศกอด ขนมไทยโบราณ ตามรอยละครเล่ห์บรรพกาล
รูปภาพประกอบ
รูปภาพที่ 1 : https://www.trendsmap.com/
รูปภาพ 2 : https://twitter.com/yoonomori/
รูปภาพที่ 3 : https://www.blockdit.com/
#มัศกอด #รีวิวร้านอาหาร #กินอะไรดี