ข้าวผัดกะเพราเมนูยอดฮิตติดปากมาจากไหนกันนะ #กินอะไรดี

ข้าวผัดกะเพราเมนูยอดฮิตติดปากมาจากไหนกันนะ

เมื่อทุกคนหิวข้าว และต้องการสั่งอาหารที่ร้านอาหารตามสั่งสิ่งแรกๆ ที่ทุกคนนึกถึงคือเมนูสิ้นคิดอย่าง “ข้าวผัดกะเพรา” วันนี้เราจะมาดูกันว่าข้าวผัดกะเพราสมัยปัจจุบันที่พวกเรากำลังรับประทานกันอยู่เนี่ย มันเหมือนกับสมัยก่อนหรือไม่ และเพราะอะไรทำให้เมนุนี้ยอดฮิตติดตลาด ติดปากผู้คนทุกผู้ทุกนาม

ความเป็นมาของเมนูสิ้นคิดยอดฮิตตลอดกาล “ข้าวผัดกะเพรา”            

ก่อนที่เราจะไปดูที่มาของเมนูนี้กันเนี่ย เรามาพิจารณาถึงคำว่า “กะเพรา” กับ คำว่า “กระเพรา” กันว่าคำไหนเป็นคำที่ถูกและคำไหนเป็นคำที่ใช้ผิด โดยตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานได้ให้คำจำกัดความไว้ว่า “กะเพรา” คือไม้ล้มลุกชนิดหนึ่งที่มีกลิ่นฉุนใช้ทำยา รวมถึงทำอาหารได้ ดังนั้นเมื่อเราเขียนอาหารสั่งพ่อค้าแม่ค้าจึงควรใช้คำว่า “ข้าวผัดกะเพรา” เพราะว่าเป็นคำเขียนที่ถูกต้องตามพจนานุกรมไทยของเรานั่นเอง

ส่วนที่มาของ “ข้าวผัดกะเพรา” นั่นเดิมทีสมัยก่อน “ข้าวผัดกะเพรา” ไม่ได้มีการใส่ซอสซีอิ๊วเหมือนอย่างในสมัยนี้ เนื่องจากซอสซีอิ๊วทั้งขาวและดำ เป็นส่วนประกอบของอาหารจีน สาเหตุที่มีการใส่ซอสซีอิ้วขาว/ซีอิ้วดำ สันนิษฐานกันว่าในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5-7 ได้มีชาวจีนอพยพมาตั้งถิ่นฐานที่ประเทศไทยจำนวนมาก

และต่อมาเมื่อจอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านเองก็ไม่ได้มีความชื่นชอบชาวจีนนักสักเท่าไหร่ จึงได้มีการออกนโยบายที่แสดงถึงความเป็นไทยต่างๆ นาๆ เช่นเมื่อผู้หญิงออกจากบ้านต้องใส่หมวกคลุมศีรษะ หรือแม้กระทั่งห้ามเล่นดนตรี เพื่อให้ประเทศไทยเข้าสู่ประเทศสมัยใหม่ ส่วนในแง่ของวัฒนธรรมอาหารเองก็ได้รับผลกระทบบ้างเช่นกัน เห็นได้จากมีการจัดงานประกวดและขนมประจำชาติ

ชาวจีนที่เข้าร่วมการประกวดจึงได้นำซอสซีอิ๊วขาวเข้ามาผสมกับข้าวผัดกะเพราแบบดั้งเดิมที่ไม่ได้ใส่ซีอิ๊วขาว กรรมการที่รับประทานก็ถึงกับอึ้งในรสชาติความอร่อย (เพราะใส่ผงชูรสเยอะ เอ้ย! ไม่ใช่!) ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นงานประกวดก็ได้มีการดัดแปลงรสชาติ “ข้าวผัดกะเพรา” ให้มีความเป็นไทยมากยิ่งขึ้น ก่อนที่จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกลายมาเป็นข้าวผัดกะเพราในปัจจุบันที่มีการใส่ถั่วฝักยาว แครอท ข้าวโพด รวมถึงใส่ผักผลไม้ต่างๆ ลงในข้าวผัดกะเพราจนทำให้ปัจจุบันเราแทบจะหาข้าวผัดกะเพราที่ใส่ใบกะเพรามาเยอะๆ แบบสมัยก่อนมาไม่ได้แล้ว

ข้าวผัดกะเพราก่อนที่จะมีการประยุกต์ดัดแปลงให้กลายมาเป็นแบบปัจจุบันนั้น จะมีรสชาติค่อนข้างเผ็ดร้อน เพราะรสชาติที่ออกมานั้นเรียกได้ว่า 100% ออกมาจากใบกะเพรา เพราะใส่ใบกะเพราในปริมาณมากประกอบกับใบกะเพราสมัยนั้นมีขนาดใหญ่ เท่าฝ่ามือ รสชาติจึงออกไปทางเผ็ดร้อน ซึ่งแตกต่างกับข้าวผัดกะเพราในสมัยนี้ที่รสชาติจะค่อนข้างออกไปทางเผ็ด+หวานเสียมากกว่า

ขอบคุณภาพจาก cookpad และ ifit4health

#ข้าวผัดกะเพรา #เมนูยอดฮิตติดปาก #กินอะไรดี